การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based learning หรือ PBL) เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์นิยม
(Constructivism) โดยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่
จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในโลก
เป็นบริบท (context) ของการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์และคิดแก้ปัญหา
รวมทั้งได้ความรู้ตามศาสตร์ในสาขาวิชาที่ตนศึกษา ไปพร้อมกันด้วย
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานจึงเป็นผลมาจากกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยความเข้าใจและการแก้ไขปัญหาเป็นหลักถ้ามองในแง่ของ
ยุทธศาสตร์การสอน PBL เป็นเทคนิคการสอน
ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตนเอง จะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการคิดหลายรูปแบบ
เช่น การคิดวิจารณญาณ คิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
รูปแบบของการจัดการเรียนรู้แบบ
การใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ PBL พอจะกล่าวได้ดังนี้
1. ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแท้จริง (student-centered learning)
2. จัดกลุ่มผู้เรียนให้มีขนาดเล็ก
(ประมาณ 3 – 5 คน)
3. ครูทำหน้าที่
เป็นผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) หรือผู้ให้คำแนะนำ (guide)
4. ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้น
(สิ่งเร้า)ให้เกิดการเรียนรู้
5. ลักษณะของปัญหาที่นำมาใช้
ต้องมีลักษณะคลุมเครือ ไม่ชัดเจน มีวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่าง
หลากหลาย อาจมีคำตอบได้หลายคำตอบ
หลากหลาย อาจมีคำตอบได้หลายคำตอบ
6. ผู้เรียนเป็นผู้แก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ ด้วยตนเอง (self-directed learning)
7. การประเมินผล ใช้การประเมินผลจากสถานการณ์จริง(authentic assessment) ดูจากความ
สามารถในการปฏิบัติของผู้เรียน
สามารถในการปฏิบัติของผู้เรียน
การเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เป็นกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนตั้งสมมติฐาน สาเหตุและกลไกของการเกิดปัญหานั้น ค้นคว้าความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
เพื่อจะนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป
โดยผู้เรียนอาจจะไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ มาก่อน
แต่อาจใช้ความรู้ที่ผู้เรียนมีอยู่เดิมหรือเคยเรียนมา วิธีการเรียนรู้ตามแนวทางที่มีลักษณะที่สำคัญ
คือ
1.
เรียนรู้ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องของปัญหานั้นๆ
เน้นกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผล
และเป็นระบบ
และเป็นระบบ
2.
เนื้อหาวิชาจะเป็นลักษณะของการบูรณาการ (Integration)
โดยผสมผสานเนื้อหาของ
หลายๆ วิชาเข้าด้วยกัน
หลายๆ วิชาเข้าด้วยกัน
3.
เรียนเป็นกลุ่มย่อย โดยมีอาจารย์ประจำกลุ่ม (Facilitator) เป็นผู้สนับสนุนและกระตุ้น
นักเรียนต้องร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในกลุ่ม
นักเรียนต้องร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในกลุ่ม
4. การเรียนรู้และค้นคว้าหาความรู้ตามวัตถุประสงค์ที่ตนเองหรือกลุ่มตั้งไว้
(self-directed learning)
ขั้นตอนของการเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
(self-directed learning)
ขั้นตอนของการเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
Step 1 อธิบายคำศัพท์หรือข้อความที่ไม่เข้าใจ ทำความเข้าใจกับศัพท์หรือความหมายต่างๆ
ของคำจากปัญหาที่ให้
นักเรียนต้องพยายามหาคำตอบให้ชัดเจนโดยอาศัยความรู้พื้นฐานของสมาชิกในกลุ่ม
หรือจากเอกสารตำราต่างๆ
Step 2 อธิบายว่าเป็นปัญหาอะไร จับประเด็นข้อมูลที่สำคัญหรือปัญหาให้ถูกต้อง
Step 3 ระดมสมอง (Brain storm) โดยพยายามตอบคำถามหรือสาเหตุที่มาของปัญหาที่อธิบายไว้ใน Step 2 ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
Step 4 วิเคราะห์ปัญหา (Analyzing the
problem) พยายามหาเหตุผลที่จะอธิบายปัญหาหรือข้อมูลที่พบ พร้อมกับตั้งสมมติฐานที่เป็นไปได้
ในการอธิบายหรือหาสาเหตุที่มาของปัญหานั้นๆ โดยลองพยายามใช้ความรู้เดิมที่นักเรียนมีอยู่หรือเคยเรียนมาแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
จัดลำดับความสำคัญของสมมติฐาน
Step 5
กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้/สร้างประเด็นการเรียนรู้
เพื่อค้นคว้าข้อมูลที่อธิบายหรือพิสูจน์สมมติฐานที่ตั้งไว้
Step 6 ค้นคว้าหาความรู้หรือข้อมูลด้วยตนเอง
พร้อมทั้งประเมินความถูกต้องโดยอาศัยสื่อการเรียนรู้ต่างๆ
Step 7 รายงานผลการศึกษาต่อกลุ่ม (Reporting)
นำความรู้ที่ได้มาวิเคราะห์ อธิบายแก้ไขสมมติฐานที่ตั้งไว้
สรุปเป็นข้อสรุปและหลักการที่ได้จากการศึกษาปัญหา เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มย่อยการเรียนการสอนแบบ
PBL
เป็นการเรียนการสอนอีกรูปแบบใหม่ที่ครูสามารถนำไปใช้จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน
ยรรยง สินธุ์งาม http://www.vcharkarn.com/blog/37131 ได้กล่าวไว้ว่า
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based
learning หรือ PBL) เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์นิยม
(Constructivism) โดยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่
จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในโลก
เป็นบริบท (context) ของการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์และคิดแก้ปัญหา รวมทั้งได้ความรู้ตามศาสตร์ในสาขาวิชาที่ตนศึกษา
ไปพร้อมกันด้วย การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานจึงเป็นผลมาจากกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยความเข้าใจและการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก
ถ้ามองในแง่ของ ยุทธศาสตร์การสอน PBL
เป็นเทคนิคการสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตนเอง
จะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการคิดหลายรูปแบบ เช่น การคิดวิจารณญาณ คิดวิเคราะห์
การคิดสังเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
รูปแบบของการจัดการเรียนรู้แบบ
การใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ PBL พอจะกล่าวได้ดังนี้
1.
ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแท้จริง (student-centered learning)
2.
จัดกลุ่มผู้เรียนให้มีขนาดเล็ก (ประมาณ 3 – 5 คน)
3.
ครูทำหน้าที่ เป็นผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) หรือผู้ให้คำแนะนำ (guide)
4.
ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้น (สิ่งเร้า)ให้เกิดการเรียนรู้
5.
ลักษญะของปัญหาที่นำมาใช้ ต้องมีลักษณะคลุมเครือ ไม่ชัดเจน
มีวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่าง
หลากหลาย อาจมีคำตอบได้ หลายคำตอบ
หลากหลาย อาจมีคำตอบได้ หลายคำตอบ
6.
ผู้เรียนเป็นผู้แก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ ด้วยตนเอง (self-directed learning)
7.
การประเมินผล ใช้การประเมินผลจากสถานการณ์จริง(authentic assessment) ดูจากความ
สามารถในการปฏิบัติ ของผู้เรียน
สามารถในการปฏิบัติ ของผู้เรียน
สุธาสินี เจียประเสริฐ (http://61.19.73.142/km/?p=1194) ได้กล่าวไว้ว่า
การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนตั้งสมมติฐาน
สาเหตุและกลไกของการเกิดปัญหานั้น ค้นคว้าความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
เพื่อจะนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไปโดยผู้เรียนอาจจะไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆมาก่อน
แต่อาจให้ความรู้ที่ผู้เรียนมีอยู่เดิมหรือเคยเรียนมา วิธีการเรียนรู้ตามแนวทางที่มีลักษณะที่สำคัญคือ
1. การเรียนรู้ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้นๆ
เน้นกระบวนการคิดอย่างมีระบบเป็นเหตุผล
2. เนื้อหาวิชาจะเป็นลักษณะของการบูรณการ (Integration) โดยผสมผสานเนื้อหาของหลายๆ
วิชาเข้าด้วยกันเพื่อที่จะอธิบายปัญหา
วิชาเข้าด้วยกันเพื่อที่จะอธิบายปัญหา
3. เรียนเป็นกลุ่มย่อย
โดยมีอาจารย์ประจำกลุ่ม (Facilitation) เป็นผู้สนับสนุนและกระตุ้นนักศึกษา
ต้องร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในกลุ่ม
ต้องร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในกลุ่ม
4. การเรียนรู้และค้นคว้าหาความรู้ตามวัตถุประสงค์ที่ตนเองหรือกลุ่มตั้งไว้ (Self-directed learning)
ขั้นตอนของการเรียนโดยให้ปัญหาเป็นฐานมี ดังนี้
Step 1
อธิบายคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ (Clarifying Unfamiliar Terms) กลุ่มผู้เรียนทำความเข้าใจคำศัพท์ และข้อความที่ปรากฏอยู่ในโจทย์ปัญหาให้ชัดเจน
Step 2 ตั้งปัญหา (Problem
Definition) กลุ่มผู้เรียนร่วมกันระบุประเด็นปัญหาหลักจากโจทย์ปัญหาที่สงสัยหรือต้องการคำตอบหรือคำอธิบายว่าเกี่ยวกับอะไรบ้าง
Step 3 ระดมสมอง (Brainstorm) กลุ่มผู้เรียนระดมสมองเพื่อตอบหรืออธิบายคำถามสั้นๆ
ที่ระบุไว้ในขั้นตอนที่ 2 ให้ครบทุกประเด็น โดยอาศัยความรู้เดิมของสมาชิกกลุ่ม
ยึดหลักทุกความคิดเห็นมีค่าไม่ปิดกั้น
Step 4
การวิเคราะห์ปัญหา (Analyzing the Problem) กลุ่มผู้เรียนอภิปรายรายละเอียดข้อมูลจากการระดมสมองให้เหตุผลวิเคราะห์เชื่อมโยงข้อมูลตั้งสมมติฐานและรวบรวมแนวคิดของกลุ่ม
Step 5
สร้างประเด็นการเรียนรู้ (Analyzing the Problem) กลุ่มผู้เรียนกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้เพื่อค้นหาข้อมูลที่จะอธิบายผลการวิเคราะห์ที่ตั้งไว้
กลุ่มร่วมกันสรุปว่าความรู้ส่วนใดรู้แล้ว ส่วนใดที่ยังไม่รู้ จำเป็นต้องไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้อธิบายปัญหานั้น
Step 6
ค้นคว้าหาความรู้หรือข้อมูลด้วยตนเอง (Self-study) พร้อมทั้งประเมินความถูกต้องโดยอาศัยสื่อการเรียนรู้ต่างๆ
Step 7 รายงานต่อกลุ่ม
(Reporting) ผู้นำรายงานข้อมูลหรือสารสนเทศใหม่ที่ได้มาจากการค้นคว้า
เพิ่มเติมมาอภิปรายวิเคราะห์สังเคราะห์เพื่อสรุปเป็นองค์ความรู้
สรุป
การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เริ่มต้นจากปัญหา ที่เกิดขึ้นโดยการสร้างความรู้จากกระบวนการทำงานกลุ่ม เพื่อแก้ปัญหาหรือสถานการณ์เกี่ยวกับชีวิตประจำวันที่มีความสำคัญต่อผู้เรียน มุ่งพัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะและกระบวนการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้โดยการชี้นำตนเอง สร้างองค์ความรู้ โดยผ่านกระบวนการคิดด้วยการแก้ปัญหา
สิ่งสำคัญในการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน คือ ปัญหา เพราะปัญหาที่ดีจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจใฝ่หาความรู้ ในการเลือกศึกษาปัญหาที่มีประสิทธิภาพ จะต้องคำนึงถึงพื้ฐานความรู้
รูปแบบของการจัดการเรียนรู้แบบ การใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ PBL พอจะกล่าวได้ดังนี้
1. ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแท้จริง (student-centered learning)
2. จัดกลุ่มผู้เรียนให้มีขนาดเล็ก (ประมาณ 3 – 5 คน)
3. ครูทำหน้าที่ เป็นผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) หรือผู้ให้คำแนะนำ (guide)
4. ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้น (สิ่งเร้า)ให้เกิดการเรียนรู้
5. ลักษญะของปัญหาที่นำมาใช้ ต้องมีลักษณะคลุมเครือ ไม่ชัดเจน มีวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่าง
หลากหลาย อาจมีคำตอบได้ หลายคำตอบ
หลากหลาย อาจมีคำตอบได้ หลายคำตอบ
6. ผู้เรียนเป็นผู้แก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ ด้วยตนเอง (self-directed learning)
7. การประเมินผล ใช้การประเมินผลจากสถานการณ์จริง(authentic assessment) ดูจากความ
ขั้นตอนของการเรียนโดยให้ปัญหาเป็นฐานมี ดังนี้
ขั้นตอนของการเรียนโดยให้ปัญหาเป็นฐานมี ดังนี้
Step 1 อธิบายคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ (Clarifying Unfamiliar Terms) กลุ่มผู้เรียนทำความเข้าใจคำศัพท์ และข้อความที่ปรากฏอยู่ในโจทย์ปัญหาให้ชัดเจน
Step 2 ตั้งปัญหา (Problem Definition) กลุ่มผู้เรียนร่วมกันระบุประเด็นปัญหาหลักจากโจทย์ปัญหาที่สงสัยหรือต้องการคำตอบหรือคำอธิบายว่าเกี่ยวกับอะไรบ้าง
Step 3 ระดมสมอง (Brainstorm) กลุ่มผู้เรียนระดมสมองเพื่อตอบหรืออธิบายคำถามสั้นๆ ที่ระบุไว้ในขั้นตอนที่ 2 ให้ครบทุกประเด็น โดยอาศัยความรู้เดิมของสมาชิกกลุ่ม ยึดหลักทุกความคิดเห็นมีค่าไม่ปิดกั้น
Step 4 การวิเคราะห์ปัญหา (Analyzing the Problem) กลุ่มผู้เรียนอภิปรายรายละเอียดข้อมูลจากการระดมสมองให้เหตุผลวิเคราะห์เชื่อมโยงข้อมูลตั้งสมมติฐานและรวบรวมแนวคิดของกลุ่ม
Step 5 สร้างประเด็นการเรียนรู้ (Analyzing the Problem) กลุ่มผู้เรียนกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้เพื่อค้นหาข้อมูลที่จะอธิบายผลการวิเคราะห์ที่ตั้งไว้ กลุ่มร่วมกันสรุปว่าความรู้ส่วนใดรู้แล้ว ส่วนใดที่ยังไม่รู้ จำเป็นต้องไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้อธิบายปัญหานั้น
Step 6 ค้นคว้าหาความรู้หรือข้อมูลด้วยตนเอง (Self-study) พร้อมทั้งประเมินความถูกต้องโดยอาศัยสื่อการเรียนรู้ต่างๆ
Step 7 รายงานต่อกลุ่ม (Reporting) ผู้นำรายงานข้อมูลหรือสารสนเทศใหม่ที่ได้มาจากการค้นคว้า เพิ่มเติมมาอภิปรายวิเคราะห์สังเคราะห์เพื่อสรุปเป็นองค์ความรู้ สามารถในการปฏิบัติ ของผู้เรียน
ที่มา
สุทิน ณ สุวรรณ.[Online] http://suthinnaa.blogspot.com/2012/12/problem-based-learning.html.
วิธีสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน.สืบค้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558.
ยรรยง สินธุ์งาม.[Online] http://www.vcharkarn.com/blog/37131.การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน.
สืบค้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558.
สุธาสินี เจียประเสริฐ.[Online] http://61.19.73.142/km/?p=1194.การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน.
สืบค้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558.
สุทิน ณ สุวรรณ.[Online] http://suthinnaa.blogspot.com/2012/12/problem-based-learning.html.
วิธีสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน.สืบค้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558.
ยรรยง สินธุ์งาม.[Online] http://www.vcharkarn.com/blog/37131.การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน.
สืบค้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558.
สุธาสินี เจียประเสริฐ.[Online] http://61.19.73.142/km/?p=1194.การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน.
สืบค้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558.